ปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันดีว่าการฟื้นฟูร่างกายด้วยเซลล์ต้นกำเนิด ถือเป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างแพร่หลาย ทั้งเพื่อความงาม และฟื้นฟูสุขภาพ โดยใช้หลักการเวชศาสตร์ฟื้นฟูและชะลอวัย

​

​

การใช้สเต็มเซลล์เพื่อการชะลอวัย (Stem Cell For Rejuvenation)

     เมื่ออายุเราเพิ่มมากขึ้นปริมาณสเต็มเซลล์ในร่างกายของเรามักลดลงตามไปด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ปฎิกิริยาออกซิเดชันที่สารอนุมูลอิสระสร้างขึ้นเมื่อเราเกิดความเครียด คือสาเหตหนึ่งที่ทำให้เกิดความชรา

     และเมื่อเข้าสู่ช่วงอายุ 30 ฮอร์โมนการเจริญเติบโตลดลง ทำให้น้ำหนักเพิ่มง่ายมากขึ้นด้วย เพราะระบบเผาผลาญทำงานได้น้อยลง คุณภาพ และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อลดลง การทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายก็ลดลงตามไปด้วย

 

     สเต็มเซลล์ หรือเซลล์ต้นกำเนิดที่สามารถพัฒนาไปเป็นเนื้อเยื้อ และเซลล์บริเวณใกล้เคียงในร่างกาย ทำหน้าที่ในการมดแดนเซลล์ที่เสื้อมสภาพ และรักษาระดับเซลล์ในร่างกายของเราให้สามารถเพิ่มจำนวนได้อย่างไม่จำกัด และนี่คือวิธีที่สเต็มเซลล์จะเข้าไปฟื้นฟูสุขภาพ และชะลอความชราได้อย่างมีประสิทธภาพ

 

การชะลอวัยด้วยการใช้สเต็มเซลล์ทำได้อย่างไร?

• การใช้สเต็มเซลล์ในการชะลอวัย หรือจำนวนสเต็มเซลล์ที่ใช้ จะขึ้นอยู่กับภาวะสุขภาพของแต่ละบุคคล และถูกวางแผนการรักษาโดยแพทย์ผู้มากประสบการณ์ และสเต็มเซลล์ที่นำมาใช้ในการชะลอวัยนี้ คือสเต็มเซลล์ชนิดมีเซ็นไคม์

• แผนการรักษาจะปรับตามความต้องการใช้ และอาจจะใช้แผนต่างๆกันสำหรับผู้รับบริการแต่ละราย

• การใช้สเต็มเซลล์ในการชะลอวัย จะใช้ในการปรับสภาพผิว ข้อต่อ กล้ามเนื้อ และส่งเสริมสุขภาพที่ดีจากภายใน

 

การใช้สเต็มเซลล์บำบัด จะประสบความสำเร็จขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุ หรือ สภาพร่างกายทั่วไปของผู้เข้ารับบริการ

 

​

ชะลอความชรา และสุขภาพดีด้วยสเต็มเซลล์

     เซลล์บำบัด ด้วยสเต็มเซลล์ชนิด MSCs ฟื้นฟูสุขภาพ ช่วยให้ผิวเนียนใส นุ่มฟู ฉ่ำวาว ย้อนวัยให้เหมือนเด็กอีกครั้ง ที่สำคัญไม่ต้องพักฟื้น.

• ผิวอ่อนวัย ต้านความชรา ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกาย

• ครอบคลุมทุกงานผิว

• ผิวกลับมาแข็งแรง อ่อนเยาว์ สดใส

• ซ่อมแซม และฟื้นฟูลึกถึงระดับเซลล์โดยตรง

• ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี

• ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

​

​

เราสามารถใช้สเต็มเซลล์ได้บ่อยแค่ไหน?

     แพทย์จะกำหนดแผนการรักษาตามสภาพร่างกายของผู้เข้ารับบริการ แนะนำให้ทำการฉีดเข้าเส้นเลือดดำ (IV) 1-3 ครั้งต่อปี ในขณะที่การฉีดเฉพาะจุดสามารถรักษาบริเวณใบหน้าและส่วนอื่นๆ ได้มากถึง 4 ครั้งต่อปี